ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบันมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี 5,000 ปีเหล่านี้สามารถพบได้ในพระคัมภีร์โบราณ ชุดกี่เพ้าโบราณเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่มีความเป็นสากลมากที่สุด เห็นได้ชัดจากองค์ประกอบต่างๆ ที่ประกอบเป็นวัฒนธรรม วัฒนธรรมอันรุ่มรวยถูกพรรณนาในเสื้อผ้าและชุดกี่เพ้าในฐานะประเทศชาติ เป็นกลุ่มของชนเผ่าต่างๆ นานาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ชุดกี่เพ้าได้รวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้อาณาจักรขนาดใหญ่
อารยธรรมจีนเป็นอารยธรรมที่ก้าวหน้าอยู่เสมอ แม้แต่ในสมัยโบราณ กิจวัตรประจำวันยังประกอบด้วยการทำมาหากินของการทำเครื่องปั้นดินเผา การทำขนม และการทำฟาร์มด้วยการทำไหม อันที่จริงชุดกี่เพ้าโบราณสำหรับชนชั้นสูงส่วนใหญ่ทำจากผ้าไหม! ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ความสนใจประจำเหล่านี้กลายเป็นการแสวงหาวิทยาศาสตร์และปรัชญาเนื่องจากวัฒนธรรมค่อนข้างมั่งคั่ง จึงมีภาษาที่มีลักษณะเฉพาะที่พัฒนาขึ้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีกลุ่มภาษาในภูมิภาคถึง 12 กลุ่ม แต่ภาษาจีนเป็นภาษาที่พูดกันในจีนโบราณตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น
ชุดกี่เพ้าคนจีนโบราณเชื่อในอาณัติของสวรรค์ พวกเขาบูชาเทพเจ้าต่าง ๆ มากมาย รวมถึงเทพเจ้าแห่งสภาพอากาศและท้องฟ้าพร้อมกับเทพเจ้าที่สูงกว่าซึ่งปกครองเทพเจ้าอื่น ๆ ทั้งหมดที่รู้จักกันในชื่อ ชุดกี่เพ้าเชื่อว่าเมื่อพวกนี้ตายไปก็กลายเป็นเทพเจ้าด้วย นั่นคือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอารยธรรมจีนโบราณ ผลกระทบยังพบเห็นได้กับเสื้อผ้าจีนโบราณของคนทั่วไป การแต่งกายที่ถูกต้องถือเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรม
ชุดกี่เพ้าลักษณ์ขั้นสูงสุดของจีน
ซึ่งทำให้พวกเขาแตกต่างจากเพื่อนบ้านต่างชาติที่ด้อยกว่าในขณะเดียวกันก็สร้างความแตกต่างทางสังคมและเพศภายในสังคมของพวกเขา เสื้อผ้าจีนโบราณมีความหมายทางวัฒนธรรมเฉพาะ โดยแต่งกายอย่างเหมาะสมซึ่งสะท้อนถึงระเบียบและการควบคุม และร่างกายและเท้าที่ไม่มีเครื่องตกแต่งทำหน้าที่เป็นสัญญาณที่มองเห็นได้ของความผิดปกติและการไม่เป็นไปตามข้อกำหนดที่เป็นอันตรายกับบุคคลที่เสี่ยงต่อบุคคลภายนอกที่ป่าเถื่อน
ประกาศว่าเฉพาะคนรวยเท่านั้นที่สามารถสวมใส่สีได้ในขณะที่คนจนต้องแต่งกายด้วยสีน้ำเงินหรือสีดำ ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง แต่กฎของการแต่งกายให้เหมาะสมเพื่อแสดงความมั่นคงในบุคลิกภาพมีชัยเหนือกว่า มันเป็นกรณีจริงของชุดกี่เพ้าทำให้ผู้ชายคนนั้น นอกจากประเภทของเสื้อคลุมในชุดจีนโบราณแล้ว สัญลักษณ์ที่แสดงอยู่บนตัวยังเป็นเครื่องบ่งชี้สถานะทางสังคมของผู้สวมใส่ที่สำคัญไม่แพ้กัน สัญลักษณ์แสดงถึงสถานะทางสังคม ข้อความทางศีลธรรม และยังบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และในตำนานอีกด้วย